TLDR สรุปสั้นๆ

แปลงตัวเลขจริงและจินตภาพเป็นจำนวนเชิงซ้อนในรูปร่าง x + yi หรือ x + yj

คำอธิบาย

แปลงตัวเลขและสัมประสิทธิ์จินตภาพเป็นจำนวนเชิงซ้อนในรูปแบบ x + yi หรือ x + yj

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

COMPLEX(real_num, i_num, [suffix])

Arguments

  • real_num (Required – number)
    สัมประสิทธิ์จริงของจำนวนเชิงซ้อน เป็นตัวเลขที่แท้จริง จะไม่มีผลต่อส่วนของจินตภาพ
  • i_num (Required – number)
    สัมประสิทธิ์จินตภาพของจำนวนเชิงซ้อน เป็นตัวเลขที่แท้จริงที่ใช้สำหรับส่วนจินตภาพ
  • suffix (Optional – text)
    คำต่อท้ายสำหรับส่วนจินตภาพ ถ้าไม่ได้ระบุถือว่าเป็น “i” โดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =COMPLEX(3,4)
    Description: สร้างจำนวนเชิงซ้อนที่มี 3 และ 4 เป็นสัมประสิทธิ์จริงและจินตภาพตามลำดับ
    Result:3+4i
  • Formula:
    =COMPLEX(3,4,"j")
    Description: สร้างจำนวนเชิงซ้อนที่มี 3 และ 4 เป็นสัมประสิทธิ์จริงและจินตภาพตามลำดับ พร้อมกำหนด j เป็นคำต่อท้าย
    Result:3+4j
  • Formula:
    =COMPLEX(0,1)
    Description: สร้างจำนวนเชิงซ้อนที่มี 0 เป็นสัมประสิทธิ์จริง และ 1 เป็นสัมประสิทธิ์จินตภาพ
    Result:i
  • Formula:
    =COMPLEX(1,0)
    Description: สร้างจำนวนเชิงซ้อนที่มี 1 เป็นสัมประสิทธิ์จริง และ 0 เป็นสัมประสิทธิ์จินตภาพ
    Result:1
  • Formula:
    =COMPLEX(-5,-3)
    Description: สร้างจำนวนเชิงซ้อนที่มี -5 และ -3 เป็นสัมประสิทธิ์จริงและจินตภาพตามลำดับ
    Result:-5-3i

Tips & Tricks

ฟังก์ชัน COMPLEX สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ต้องการจำนวนเชิงซ้อนเป็นอาร์กิวเมนต์ เช่น IMABS เพื่อคำนวณค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเชิงซ้อน

ข้อควรระวัง (Cautions)

ฟังก์ชัน COMPLEX รับได้เฉพาะคำต่อท้ายคือ ‘i’ หรือ ‘j’ เท่านั้น ถ้าใช้คำต่อท้ายอื่น ๆ เช่น ‘I’ หรือ ‘J’ จะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด #VALUE! ฟังก์ชันที่รับจำนวนเชิงซ้อนจำเป็นต้องมีคำต่อท้ายที่ตรงกัน และหากค่าที่ใส่ไม่ใช่ตัวเลข ฟังก์ชันจะส่งผลเป็นค่า #VALUE! ได้เช่นกัน

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot