TLDR สรุปสั้นๆ
CORREL คืนค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างช่วงข้อมูลสองช่วง โดยบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน CORREL ใช้ในการคำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (correlation coefficient) ระหว่างช่วงข้อมูลสองช่วง ซึ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร โดยค่าสัมประสิทธิ์สามารถบ่งบอกถึงความสัมพันธ์เชิงเส้นที่มีความสำคัญระหว่างตัวแปรสองตัวอย่างไร เช่น คุณสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิเฉลี่ยกับการใช้เครื่องปรับอากาศในพื้นที่หนึ่งได้
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003 หรือก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
CORREL(array1, array2)
Arguments
-
array1 (Required – range)
กลุ่มข้อมูลแรกที่ต้องการคำนวณ -
array2 (Required – range)
กลุ่มข้อมูลที่สองที่ต้องการคำนวณ
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาค่าสัมประสิทธิ์ระหว่างข้อมูลในช่วง A1 ถึง A10 กับ B1 ถึง B10=CORREL(A1:A10, B1:B10)
Result:ค่าเป็นตัวเลขที่ระบุค่าสัมประสิทธิ์ (เช่น 0.85 แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงบวกที่แข็งแรง) -
Formula:
Description: คำนวณค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างค่ารายได้และค่าใช้จ่าย=CORREL(C1:C20, D1:D20)
Result:ค่าเป็นตัวเลขแสดงการมีความสัมพันธ์หรือไม่ (เช่น -0.75 แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงลบที่แข็งแรง) -
Formula:
Description: หาความสัมพันธ์ระหว่างการลงจอดเรียบและปริมาณคนเดินทาง=CORREL(E1:E30, F1:F30)
Result:ค่าเป็นตัวเลขแสดงความสัมพันธ์ (เช่น 0 แสดงถึงการไม่มีความสัมพันธ์) -
Formula:
Description: ใช้ CORREL ร่วมกับ OFFSET เพื่อเลื่อนช่วงและคำนวณค่าสัมประสิทธิ์ใหม่=CORREL(G1:G50, H1:H50) + OFFSET(I1, 0, 1)
Result:ปรากฏค่าสัมประสิทธิ์ใหม่ที่คำนวณจากการเลื่อนช่วงข้อมูล -
Formula:
Description: ใช้ IF ร่วมกับ CORREL เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ว่ามีความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่แข็งแรงหรือไม่=IF(CORREL(J1:J100, K1:K100) > 0.9, 'Strong Positive', 'Not Strong')
Result:'Strong Positive' หรือ 'Not Strong' ขึ้นอยู่กับผลการคำนวณ
Tips & Tricks
การใช้ฟังก์ชันนี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ความเสี่ยง, การจัดการพอร์ตโฟลิโอ หรือกระบวนการพยากรณ์ต่างๆ โดยได้ค่าที่บอกถึงการมีหรือไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างชุดข้อมูลต่าง ๆ
ข้อควรระวัง (Cautions)
ฟังก์ชัน CORREL จะไม่สนใจค่าข้อความ, ค่าโลจิค, หรือเซลล์ว่าง ซึ่งควรระมัดระวังหากมีในข้อมูล และจะเกิดข้อผิดพลาด #N/A หากจำนวนข้อมูลใน array1 และ array2 ไม่เท่ากัน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
- CORREL Function – Microsoft Support
- LiveFlow CORREL Guide
- Corporate Finance Institute – CORREL Explanation
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply