TLDR สรุปสั้นๆ
CSCH หาค่า hyperbolic cosecant ของมุมที่ระบุในรูปแบบเรเดียน ไม่สามารถใช้กับค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขหรือเกินขอบเขตได้
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน CSCH ใน Excel ใช้ในการหาค่า hyperbolic cosecant ของค่าองศาที่ระบุในรูปแบบเรเดียน ซึ่งเป็นฟังก์ชันตรีโกณมิติที่สอดคล้องกับฟังก์ชัน cosecant ปกติ แต่ใช้สำหรับ hyperbolic
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
CSCH(number)
Arguments
-
number (Required – Number)
ตัวเลขที่ใช้ในการหาค่า hyperbolic cosecant ซึ่งต้องเป็นค่ามุมในรูปแบบเรเดียน
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาผลลัพธ์ของค่า hyperbolic cosecant ที่มุม 1.5 เรเดียน=CSCH(1.5)
Result:0.4696 (จะได้ค่าตัวเลขเป็นประเภทจำนวนจริง) -
Formula:
Description: หาผลลัพธ์ของค่า hyperbolic cosecant ที่มุม 0.5 เรเดียน=CSCH(0.5)
Result:1.9190 (ค่าตัวเลขประเภทจำนวนจริง) -
Formula:
Description: หาค่า hyperbolic cosecant ของมุมติดลบหรือ -2 เรเดียน=CSCH(-2)
Result:-0.2757 (ค่าตัวเลขประเภทจำนวนจริง)
Tips & Tricks
ฟังก์ชัน CSCH มักใช้งานร่วมกับฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์อื่น ๆ เช่น SINH และ COSH เพื่อการคำนวณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีหนึ่งที่ดีคือการใช้ Excel ในการแปลงค่าองศาเป็นเรเดียนโดยใช้ฟังก์ชัน RADIANS() หากตัวเลขเริ่มต้นของคุณอยู่ในองศา
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระมัดระวังไม่ให้ค่า Number ที่ใช้ในฟังก์ชันเกินขอบเขตที่กำหนด ในกรณีที่ใช้ค่าทีเกิน 2^27 จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด #NUM! และหากใช้ค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด #VALUE!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply