TLDR สรุปสั้นๆ

DURATION คำนวณ Macauley duration ของพันธบัตรสำหรับการวัดความเสี่ยงต่ออัตราดอกเบี้ย

คำอธิบาย

ฟังก์ชัน DURATION ใช้ในการคำนวณค่า Macauley duration ของพันธบัตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสด (cash flows) ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาพันธบัตรเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทน

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

DURATION(settlement, maturity, coupon, yld, frequency, [basis])

Arguments

  • settlement (Required – Date)
    วันที่ชำระราคา เป็นวันที่หลังจากวันที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งหลักทรัพย์ถูกซื้อขายกับผู้ซื้อ
  • maturity (Required – Date)
    วันที่หมดอายุของหลักทรัพย์ เป็นวันที่หลักทรัพย์จะหมดอายุ
  • coupon (Required – Number)
    ผลตอบแทนต่อปีของหลักทรัพย์ (อัตราดอกเบี้ยคูปอง)
  • yld (Required – Number)
    อัตราผลตอบแทนต่อปีของหลักทรัพย์
  • frequency (Required – Number)
    จำนวนครั้งของการจ่ายผลตอบแทนต่อปี (เช่น รายปี = 1, ครึ่งปี = 2, รายไตรมาส = 4)
  • basis (Optional – Number)
    ประเภทของการนับวัน ใช้ค่าดังนี้: 0 หรือไม่ใส่ = US (NASD) 30/360, 1 = Actual/actual, 2 = Actual/360, 3 = Actual/365, 4 = European 30/360

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =DURATION(DATE(2023, 4, 1), DATE(2030, 4, 1), 0.06, 0.05, 2)
    Description: คำนวณ Macauley duration สำหรับพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยคูปอง 6% และอัตราผลตอบแทน 5% จ่ายดอกเบี้ยทุกครึ่งปี
    Result:ค่าที่ได้คือระยะเวลาของพันธบัตรนั้นในหน่วยปี (เช่น 10.9191 ปี) ซึ่งบ่งบอกการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
  • Formula:
    =DURATION(DATE(2022, 1, 15), DATE(2032, 1, 15), 0.045, 0.04, 1, 1)
    Description: คำนวณ Macauley duration โดยใช้ basis เป็น Actual/actual
    Result:สำหรับตัวอย่างนี้ค่าที่ได้จะประมาณ 8.6848 ปี
  • Formula:
    =DURATION(A1, B1, C1, D1, 4)
    Description: คำนวณ Macauley duration โดยใช้ความถี่ของวงเงินจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายไตรมาส (frequency = 4) และข้อมูลในเซลล์ A1 ถึง D1
    Result:ค่าที่ได้เป็นจำนวนปีซึ่งแสดงถึงการตอบสนองของพันธบัตรต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
  • Formula:
    =DURATION(A1, B1, C1, D1, E1)
    Description: คำนวณ Macauley duration โดยอ้างถึงข้อมูลในเซลล์เพื่อให้ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
    Result:ผลลัพธ์สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในเซลล์
  • Formula:
    =LAMBDA(start, end, LET(y, DATEDIF(start, end, "y"), m, DATEDIF(start, end, "ym"), d, DATEDIF(start, end, "md"), y & " ปี " & m & " เดือน " & d & " วัน"))
    Description: ฟังก์ชัน LAMBDA ที่คำนวณระยะเวลาระหว่างวันสองวันในรูปแบบปี เดือน และวัน
    Result:สามารถคำนวณระยะเวลาระหว่างสองวันที่ได้แสดงเป็นปี, เดือน, และวัน

Tips & Tricks

ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้งว่าใส่ข้อมูลวัน วันที่ และค่าอัตราผลตอบแทนถูกต้อง เลือกใช้การอ้างอิงเซลล์เพื่อความสะดวกในการแก้ไข หากต้องการคำนวณ duration ที่มี basis ต่างกันต้องระบุในสูตร

ข้อควรระวัง (Cautions)

อย่าลืมใส่วันที่เรียงลำดับถูกต้อง โดยวันที่ settlement ต้องมาก่อน maturity การใช้ค่า frequency และ basis ที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดความผิดพลาด เช่น #NUM! ควรแน่ใจว่าค่าของ coupon และ yld ไม่เป็นค่าลบ

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot