TLDR สรุปสั้นๆ
IMCSCH ให้ค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อนในรูปแบบ x+yi หรือ x+yj
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน IMCSCH ใช้คำนวณ cosecant ไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน ค่าจำนวนเชิงซ้อนจะอยู่ในรูปแบบข้อความเช่น x+yi หรือ x+yj
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
IMCSCH(inumber)
Arguments
-
inumber (Required – string)
จำนวนเชิงซ้อนที่ต้องการหาค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิก สามารถเขียนเป็น x+yi หรือ x+yj ต้องเป็นจำนวนเชิงซ้อน
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน 4+3i=IMCSCH("4+3i")
Result:-0.036275889628626-0.0051744731840194i -
Formula:
Description: หาค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน 5+2j=IMCSCH("5+2j")
Result:-0.00812670949132111+0.0278872068883506j -
Formula:
Description: ใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อสร้างจำนวนเชิงซ้อน 2-3i แล้วหาค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิก=IMCSCH(COMPLEX(2,-3))
Result:-0.0904732097532074+0.0449245678270224i -
Formula:
Description: หาค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิก เมื่อ A1 = 6 และ B1 = -1 ซึ่งจะใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อสร้างจำนวน 6-1i=IMCSCH(COMPLEX(A1,B1))
Result:-0.152382270971524+0.531731463905983i -
Formula:
Description: กรณีที่จำนวนเชิงซ้อนเป็น 0+0i ค่า cosecant ไฮเพอร์โบลิกจะมีค่า infinity=IMCSCH("0+0i")
Result:"infinity"
Tips & Tricks
เพื่อสร้างจำนวนเชิงซ้อนที่ถูกต้อง ลองใช้ฟังก์ชัน COMPLEX คู่กับ IMCSCH ช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการพิมพ์เอง และถ้าต้องการตรวจสอบค่าให้ออกมาเป็นค่าจาก IMCSCH สามารถใช้เครื่องมือคำนวณเชิงวิเคราะห์จำนวนเชิงซ้อนอื่น ๆ ใน Excel ได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
ต้องระวังว่า inumber ต้องอยู่ในรูปแบบ x+yi หรือ x+yj หากไม่มีรูปแบบนี้ จะเจอข้อผิดพลาด #NUM! หากระดับความยุ่งยากของ inumber ไม่ใช่เป็นตัวเลข เช่น ตัวอักษรหรือเหตุผลตรรกะ จะได้รับข้อผิดพลาด #VALUE!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply