TLDR สรุปสั้นๆ
IMDIV ใช้ในการหารจำนวนเชิงซ้อนสองตัวแล้วคืนค่าเป็นจำนวนเชิงซ้อน
คำอธิบาย
IMDIV เป็นฟังก์ชันใน Excel ที่ใช้ในการหารจำนวนเชิงซ้อนสองตัว โดยจะคืนผลลัพธ์เป็นจำนวนเชิงซ้อนในรูปแบบ x + yi หรือ x + yj
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือเวอร์ชั่นก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
IMDIV(inumber1, inumber2)
Arguments
-
inumber1 (Required – string)
ตัวเศษหรือเลขที่จะถูกหารแบบจำนวนเชิงซ้อน -
inumber2 (Required – string)
ตัวหารหรือเลขที่ใช้ในการหารแบบจำนวนเชิงซ้อน
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หารจำนวนเชิงซ้อน -238+240i ด้วย 10+24i=IMDIV("-238+240i","10+24i")
Result:5+12i (เป็นผลลัพธ์ของจำนวนเชิงซ้อนที่ได้จากการคำนวณ) -
Formula:
Description: หารจำนวนเชิงซ้อน 3+2i ด้วย 1-i=IMDIV("3+2i","1-i")
Result:1+1i (ผลลัพธ์หลังจากหาร) -
Formula:
Description: หารจำนวนมโนภาพ 0+1i ด้วยจำนวนจริง 1+0i=IMDIV("0+1i","1+0i")
Result:0+1i (ยังคงเท่าเดิมเพราะตัวหารเป็น 1) -
Formula:
Description: เพิ่มผลลัพธ์การหารจำนวนเชิงซ้อนสองคู่โดยใช้ฟังก์ชัน IMSUM=IMSUM(IMDIV("3+2i","1-i"), IMDIV("4+3i","2-i"))
Result:4+0.5i (ผลรวมของการหารทั้งสองคู่) -
Formula:
Description: ใช้ IMPRODUCT เพื่อคูณจำนวนเชิงซ้อนก่อนแล้วหารด้วยจำนวนเชิงซ้อนอีกตัว=IMDIV(IMPRODUCT("3+i","1-2i"),"2+3i")
Result:0.16-0.68i (แสดงถึงการจัดการหลายฟังก์ชันในครั้งเดียว)
Tips & Tricks
ควรใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อแปลงค่าสัมประสิทธิ์จริงและมโนภาพให้เป็นจำนวนเชิงซ้อนก่อนการดำเนินการ IMDIV เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการคำนวณ
ข้อควรระวัง (Cautions)
ตัวหารใน IMDIV ห้ามเป็น 0 เพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดการหารที่ไม่สามารถคำนวณได้
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply