TLDR สรุปสั้นๆ
IMSECH ใช้ในการหาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน
คำอธิบาย
ฟังก์ชันนี้ใช้ในการหาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน (complex number) ที่อยู่ในรูป x+yi หรือ x+yj
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
IMSECH(inumber)
Arguments
-
inumber (Required – string)
จำนวนเชิงซ้อนที่เราต้องการหาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิก (complex number)
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน 4+3i=IMSECH("4+3i")
Result:ผลลัพธ์คือ -0.0362534969158689-0.00516434460775318i -
Formula:
Description: หาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน 2+5i โดยใช้ฟังก์ชัน COMPLEX สร้างจำนวนเชิงซ้อน=IMSECH(COMPLEX(2,5))
Result:ผลลัพธ์คือ 0.1034-0.0780i -
Formula:
Description: หาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อน -1-2j=IMSECH("-1-2j")
Result:ผลลัพธ์คือ -0.227+0.997i -
Formula:
Description: หาค่าเซแคนต์เชิงไฮเพอร์โบลิกของจำนวนเชิงซ้อนในเซลล์ A1 ที่มีค่าเป็น 3+i=IMSECH(A1) เมื่อ A1 เป็น "3+i"
Result:ผลลัพธ์คือ 0.00985-0.01i -
Formula:
Description: ตัวอย่างการใช้ IMSECH ร่วมกับฟังก์ชัน COMPLEX ในการรับค่า input หลายตัว=IMSECH(COMPLEX(7,-3)) + IMSECH(COMPLEX(-2, 4))
Result:ผลลัพธ์คือ (0.00097-0.0039i) + (0.0320+0.0042i) ซึ่งเป็นการบวกผลลัพธ์แต่ละตัว
Tips & Tricks
– ใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อช่วยในการทำงานกับจำนวนเชิงซ้อนที่มาจากตัวแปรจริงและจินตภาพ – การคำนวณการเชิงซ้อนสามารถใช้งานในหลายๆ ฟังก์ชัน ซึ่งมีประโยชน์ในงานวิเคราะห์ที่ซับซ้อน
ข้อควรระวัง (Cautions)
หาก input ไม่ใช่รูปแบบ x+yi หรือ x+yj ฟังก์ชัน IMSECH จะคืนค่าเป็น #NUM! error นอกจากนี้หาก input เป็นค่าทางตรรกะ ฟังก์ชันนี้จะคืนค่า #VALUE! error
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply