TLDR สรุปสั้นๆ
ISERR ตรวจสอบข้อผิดพลาดในค่าที่ระบุยกเว้น #N/A ส่งคืน TRUE ถ้าเป็นข้อผิดพลาดและ FALSE ถ้าไม่ใช่ข้อผิดพลาด
คำอธิบาย
ISERR เป็นฟังก์ชันที่ใช้ตรวจสอบว่าค่าในเซลล์ที่ระบุนั้นมีข้อผิดพลาดหรือไม่ (ยกเว้นข้อผิดพลาด #N/A) โดยจะส่งคืนค่า TRUE ถ้าเป็นข้อผิดพลาด และ FALSE ถ้าไม่ใช่ข้อผิดพลาดใดๆ
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
ISERR(value)
Arguments
-
value (Required – Any)
ค่าที่ต้องการตรวจสอบหาข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นค่าเปล่า (เซลล์ว่างเปล่า), ข้อผิดพลาด, ค่าลอจิก, ข้อความ, ตัวเลข หรือค่าการอ้างอิง
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าค่าในเซลล์ A3 เป็นข้อผิดพลาดหรือไม่ ยกเว้นข้อผิดพลาด #N/A=ISERR(A3)
Result:ประเมินค่าในเซลล์นี้ว่าเป็นข้อผิดพลาดโดยไม่นับ #N/A -
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าการหารด้วยศูนย์มีข้อผิดพลาดหรือไม่=ISERR(1/0)
Result:TRUE (เกิดข้อผิดพลาด #DIV/0!) -
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าข้อความธรรมดาเป็นข้อผิดพลาดหรือไม่=ISERR("text")
Result:FALSE (ข้อความไม่ใช่ข้อผิดพลาด) -
Formula:
Description: ใช้ ISERR ร่วมกับฟังก์ชัน IF เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดและส่งข้อความเมื่อเกิดข้อผิดพลาด=IF(ISERR(B1), "Error Detected", B1)
Result:ส่งคืน "Error Detected" ถ้ามีข้อผิดพลาด ในกรณีนี้ B1 จะถูกตรวจสอบว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ -
Formula:
Description: รวมค่าในช่วง D1:D10 ที่ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ=SUMIF(D1:D10, "<>&", ISERR(D1:D10))
Result:ส่งคืนผลรวมของค่าที่ไม่มีข้อผิดพลาดในช่วง D1 ถึง D10
Tips & Tricks
ISERR มักถูกใช้ร่วมกับฟังก์ชัน IF เพื่อตรวจจับข้อผิดพลาดและดำเนินการอื่นตามเงื่อนไข เมื่อใช้กับ Conditional Formatting ยังสามารถช่วยเน้นสีเซลล์ที่มีข้อผิดพลาดให้เห็นชัดได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
ISERR ไม่สามารถตรวจจับข้อผิดพลาด #N/A ถ้าต้องการตรวจจับ #N/A ควรใช้ฟังก์ชัน ISNA สำหรับข้อมูลจำนวนมาก การประมวลผลด้วย ISERR อาจทำให้ Excel ช้าลงได้ ควรใช้เฉพาะที่จำเป็น
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply