TLDR สรุปสั้นๆ
ISODD ตรวจสอบว่าค่าหมายเลขเป็นเลขคี่ คืนค่า TRUE ถ้าเป็นเลขคี่
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน ISODD ใน Excel ใช้ตรวจสอบว่าค่าที่ให้เป็นเลขคี่หรือเลขคู่ และส่งคืน TRUE ถ้าเป็นเลขคี่ หรือ FALSE ถ้าเป็นเลขคู่
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ เวอร์ชันก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
ISODD(number)
Arguments
-
number (Required – Number)
ค่าตัวเลขที่ต้องการทดสอบว่าคือเลขคี่หรือไม่ ค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็มจะถูกตรวจสอบ เลขทศนิยมจะถูกตัดเศษก่อนการตรวจสอบ
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าหมายเลข 7 เป็นเลขคี่หรือไม่=ISODD(7)
Result:TRUE เพราะ 7 เป็นเลขคี่ -
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าหมายเลข 4 เป็นเลขคี่หรือไม่=ISODD(4)
Result:FALSE เพราะ 4 เป็นเลขคู่ -
Formula:
Description: ตรวจสอบค่าจากเซลล์ A1 ว่าเป็นเลขคี่หรือไม่=ISODD(A1)
Result:ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับค่าที่อยู่ในเซลล์ A1 -
Formula:
Description: ใช้ ISODD กับฟังก์ชัน IF เพื่อตรวจสอบและระบุว่าเลขใน A1 เป็นเลขคี่หรือเลขคู่=IF(ISODD(A1), "เลขคี่", "เลขคู่")
Result:คืนค่าเป็น "เลขคี่" ถ้า A1 เป็นเลขคี่, และ "เลขคู่" ถ้า A1 เป็นเลขคู่ -
Formula:
Description: ใช้ ISODD กับ SUMPRODUCT เพื่อหาผลรวมเฉพาะหมายเลขคี่ในช่วง B1 ถึง B10=SUMPRODUCT(--(ISODD(B1:B10)), B1:B10)
Result:จะได้ผลรวมของค่าทั้งหมดในช่วงที่เป็นเลขคี่เท่านั้น
Tips & Tricks
การใช้ ISODD ร่วมกับ Conditional Formatting เพื่อไฮไลท์เซลล์ที่มีเลขคี่ให้โดดเด่น โดยการสร้างกฎใหม่และใช้สูตร =ISODD(A1) ในฟอร์แมตting และใช้ร่วมกับ IFERROR เพื่อจัดการข้อผิดพลาดเมื่อเกิดค่าอินพุตที่ไม่ใช่ตัวเลขเพื่อป้องกันการแสดงข้อผิดพลาด #VALUE
ข้อควรระวัง (Cautions)
ISODD จะส่งคืนค่าความจริงตามชนิดของค่าที่ป้อน ถ้าเป็นเลขทศนิยม ฟังก์ชันจะตัดเศษทิ้งก่อน ซึ่งอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังถ้าทำงานกับเลขทศนิยมที่ไม่เป็นจำนวนเต็ม
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply