MODE.MULT

TLDR สรุปสั้นๆ

หาค่าโหมดของข้อมูลที่ซ้ำมากที่สุด สามารถคืนได้หลายค่า ต้องใส่เป็น array formula.

คำอธิบาย

ฟังก์ชัน MODE.MULT ใช้เพื่อหาค่าที่พบซ้ำมากที่สุดในชุดข้อมูลหนึ่ง ๆ และสามารถคืนค่ามากกว่าหนึ่งค่าหากมีหลายค่าที่มีความถี่สูงที่สุด ฟังก์ชันนี้คืนค่ากลับมาเป็นอาเรย์แนวตั้ง ซึ่งต้องใส่สูตรเป็น array formula

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2010

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

MODE.MULT(number1, [number2], ...)

Arguments

• number1 (Required – number)
  ตัวเลขตัวแรกที่คุณต้องการหา mode
• number2 (Optional – number)
  ตัวเลขที่สองถึงที่ 254 ที่คุณต้องการหา mode สามารถใช้ arrays หรือ references แทนการแยกค่าด้วยคอมมา

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

• Formula:

  =MODE.MULT(A2:A13)

  Description: หาค่าที่พบบ่อยที่สุดในช่วงข้อมูล A2:A13 เป็น array formula
  Result:{1, 2, 3}
  
• Formula:

  =MODE.MULT(1,2,4,4,5,5,5,6)

  Description: หาค่าโหมดของเซ็ตข้อมูลที่ให้มา
  Result:{5}
  
• Formula:

  =MODE.MULT(1,3,3,5,5,7,7,8)

  Description: หาค่าโหมดของเซ็ตข้อมูลที่มีค่าซ้ำหลายค่า
  Result:{3, 5, 7}
  
• Formula:

  TRANSPOSE(MODE.MULT(A1:A10))

  Description: ใช้ร่วมกับฟังก์ชัน TRANSPOSE เพื่อแสดงผลเป็นแนวนอน
  Result:แสดงผลค่าที่เกิดบ่อยสุดในแนวนอน
  
• Formula:

  =IFERROR(MODE.MULT(A1:A10), "No Mode")

  Description: ใช้ IFERROR เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีค่าซ้ำจะคืน "No Mode"
  Result:แสดงชื่อค่าที่พบบ่อยหรือข้อความถ้าไม่มีค่าซ้ำ
  

Tips & Tricks

ต้องใส่ฟังก์ชันนี้เป็น array formula โดยกด Ctrl+Shift+Enter และควรเลือกช่วงที่จะลงค่าผลลัพธ์ให้เพียงพอ หากมีหลาย mode ควรเตรียมช่วงให้ใหญ่พอสำหรับผลลัพธ์

ข้อควรระวัง (Cautions)

หากชุดข้อมูลไม่มีค่าซ้ำ ฟังก์ชันจะคืนค่า #N/A. ระวังเรื่องชนิดข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เช่น ข้อความหรือค่าที่ไม่ใช่ตัวเลข เพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

• MODE.SNGL
• IFERROR
• TRANSPOSE

References

• Official Microsoft Documentation
• Mode.Mult Guide on MyExcelOnline
• ExcelJet Tutorial on MODE.MULT

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️