TLDR สรุปสั้นๆ
MODE หาค่าที่ซ้ำบ่อยที่สุดในกลุ่มตัวเลข ให้ผลลัพธ์เป็นค่าซ้ำบ่อยที่สุดของข้อมูลที่ระบุ
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน MODE ใน Excel ใช้สำหรับค้นหาค่าที่เกิดซ้ำบ่อยที่สุดในชุดข้อมูล เหมาะสำหรับการวิเคราะห์สถิติ เช่น ต้องการทราบจำนวนของสัตว์ที่พบในพื้นที่ชุ่มน้ำหรือต้องการคำนวณจำนวนครั้งที่โทรศัพท์มีการใช้บ่อยที่สุดในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Version 2003 หรือก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
MODE(number1, [number2], ...)
Arguments
-
number1 (Required – number)
นี่คืออาร์กิวเมนต์แรกที่คุณต้องการหาค่า mode -
number2,… (Optional – number)
อาร์กิวเมนต์เพิ่มเติมจาก 2 ถึง 255 ที่ต้องการหาค่า mode คุณสามารถใช้อาเรย์เดียวหรือการอ้างอิงถึงอาเรย์แทนการใส่ค่าหลายๆ ค่าได้
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ฟังก์ชันนี้จะหาค่าที่เกิดบ่อยที่สุดในกลุ่มตัวเลขคือ 4=MODE(5, 4, 4, 3, 2, 4)
Result:4 (เพราะตัวเลข 4 ปรากฏบ่อยที่สุด) -
Formula:
Description: จากข้อมูลในเซลล์ A1 ถึง A7 ฟังก์ชันจะหาค่าที่เกิดบ่อยที่สุดในช่วงนี้=MODE(A1:A7)
Result:ตามตัวอย่างที่มีค่าเป็น 4 (เพราะตัวเลข 4 ปรากฏบ่อยที่สุดในกลุ่มนี้) -
Formula:
Description: ในกรณีนี้ ฟังก์ชันจะคืนค่า error #N/A เนื่องจากค่าไม่มีตัวใดซ้ำกันเด่นชัด=MODE(1, 2, 2, 3, 3, 4)
Result:#N/A (ไม่มีค่าใดซ้ำเด่นชัด) -
Formula:
Description: ใช้งานฟังก์ชันเพื่อหาค่าที่ซ้ำบ่อยที่สุดในช่วงเซลล์ B2 ถึง B10=MODE(B2:B10)
Result:คือตัวเลขที่ซ้ำบ่อยที่สุดในช่วงที่ระบุ -
Formula:
Description: ใช้ฟังก์ชัน MODE ร่วมกับ SUM เพื่อหาค่า mode และบวกเพิ่มด้วย 10=SUM(MODE(A1:A10), 10)
Result:คือตัวเลขที่ซ้ำบ่อยที่สุดบวกเพิ่มด้วย 10
Tips & Tricks
ควรใช้ชื่ออธิบายชัดเจนสำหรับช่วงข้อมูลเพื่อความสะดวกในการอ้างอิง ควรพิจารณาความถูกต้องของข้อมูลก่อนใช้ฟังก์ชันนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการได้ผลลัพธ์ที่สะดุดตา และสามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น AVERAGE หรือ IF เพื่อความน่าสนใจในการวิเคราะห์
ข้อควรระวัง (Cautions)
ค่าที่ไม่ใช่ตัวเลข เช่น ข้อความหรือค่าตรรกะจะถูกละเว้น แต่หากไม่มีค่าใดซ้ำซ้อน ฟังก์ชันจะคืนค่าเป็น #N/A ระวังการใช้กับโครงสร้างข้อมูลที่มีค่าผิดพลาดที่จะก่อให้เกิด error ในผลลัพธ์
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply