TLDR สรุปสั้นๆ
QUOTIENT หาผลหารที่เป็นจำนวนเต็ม โดยทิ้งเศษและไม่สามารถหารด้วย 0 ได้
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน QUOTIENT ใน Excel ใช้ในการหาส่วนของผลหารที่เป็นจำนวนเต็ม โดยจะไม่สนใจเศษที่เหลือจากการหาร ทำให้เหมาะสมเมื่อคุณต้องการผลหารที่ไม่มีเศษเหลือ
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
QUOTIENT(numerator, denominator)
Arguments
-
numerator (Required – number)
ตัวเลขที่ต้องการให้เป็นผลหาร หมายถึง ตัวตั้งหารหรือผู้ที่ถูกหาร -
denominator (Required – number)
ตัวเลขที่ต้องใช้หาร หมายถึง ตัวส่วนหรือผู้ที่ใช้ในการหาร
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาร 5 ด้วย 2 โดยไม่สนใจส่วนของเศษ=QUOTIENT(5, 2)
Result:2 (ผลหารที่เป็นจำนวนเต็ม) -
Formula:
Description: หาร 4.5 ด้วย 3.1 โดยไม่สนใจส่วนของเศษ=QUOTIENT(4.5, 3.1)
Result:1 (ผลหารที่เป็นจำนวนเต็ม) -
Formula:
Description: หาร -10 ด้วย 3 โดยไม่สนใจส่วนของเศษ=QUOTIENT(-10, 3)
Result:-3 (ผลหารที่เป็นจำนวนเต็ม) -
Formula:
Description: ใช้ QUOTIENT ร่วมกับ MOD เพื่อแสดงเศษด้วย=QUOTIENT(A2, B2) & " Remainder: " & MOD(A2, B2)
Result:แสดงทั้งผลหารและเศษเป็นข้อความ เช่น "3 Remainder: 1" -
Formula:
Description: ใช้ IFERROR เพื่อจับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ถ้ามีหารด้วย 0=IFERROR(QUOTIENT(A1, B1), "Error in division")
Result:แสดงข้อความ "Error in division" ถ้ามีการหารด้วย 0
Tips & Tricks
สามารถใช้ฟังก์ชัน QUOTIENT กับ IFERROR เพื่อจัดการปัญหาการหารด้วย 0 และใช้ร่วมกับฟังก์ชัน MOD เพื่อแสดงเศษ
ข้อควรระวัง (Cautions)
การใช้ QUOTIENT ควรตรวจสอบว่าตัวหาร (denominator) ไม่เป็น 0 เพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด #DIV/0! และควรให้แน่ใจว่าใช้เลขจำนวนในการคำนวณ ถ้าไม่ใช่จะเกิดข้อผิดพลาด #VALUE!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply