SECH

TLDR สรุปสั้นๆ

SECH หาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกของมุมในรูปเรเดียน

คำอธิบาย

ฟังก์ชัน SECH ใช้ในการหาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิก (hyperbolic secant) ของมุมที่กำหนด ซึ่งเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกเป็นหนึ่งในฟังก์ชันไฮเพอร์โบลิกที่ใช้ในการประมวลผลมุมทางคณิตศาสตร์

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2013

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

SECH(number)

Arguments

• number (Required – Number)
  มุมที่ต้องการหาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิก โดยต้องเป็นมุมที่วัดเป็นเรเดียน (radian)

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

• Formula:

  =SECH(45)

  Description: หาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกของมุม 45 องศา (โดยที่ต้องแปลงเป็นเรเดียน)
  Result:5.73E-20
  
• Formula:

  =SECH(30)

  Description: หาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกของมุม 30 องศา (โดยที่ต้องแปลงเป็นเรเดียน)
  Result:1.87E-13
  
• Formula:

  =SECH(PI()/4)

  Description: หาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกของมุม PI/4 เรเดียน
  Result:0.858
  
• Formula:

  =SECH(RADIANS(60))

  Description: หาค่าเซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกของมุม 60 องศา หลังจากแปลงเป็นเรเดียนด้วยฟังก์ชัน RADIANS
  Result:0.5
  
• Formula:

  =SECH(-1)

  Description: การใช้เซคานซ์ไฮเปอร์โบลิกกับมุม -1 เรเดียน สามารถทำได้เช่นกัน
  Result:0.648
  

Tips & Tricks

จำไว้ว่าการที่จะใช้ SECH กับมุมในหน่วยองศาต้องแปลงเป็นเรเดียนก่อนเสมอเท่านั้น คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ฟังก์ชัน RADIANS

ข้อควรระวัง (Cautions)

ฟังก์ชัน SECH ไม่สามารถใช้กับมุมที่เกิน 2^27 ได้

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

• COS
• COSH
• SIN
• TAN

References

• Microsoft Official Documentation

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️