TLDR สรุปสั้นๆ
T.INV.2T ใช้หาค่าของสองด้านของการแจกแจง t ตามความน่าจะเป็นและจำนวนดีกรีของอิสระที่กำหนด
คำอธิบาย
ฟังก์ชันนี้ใช้ในการหาค่า t-score สองด้าน (two-tailed t-score) ของการแจกแจง Student’s t-distribution ซึ่งโดยทั่วไปใช้ในการทดสอบสมมติฐานทางสถิติ หากคุณมีความน่าจะเป็นที่ต้องการและจำนวนดีกรีของความเป็นอิสระ (degrees of freedom) ฟังก์ชันนี้จะช่วยคำนวณค่า t ที่สัมพันธ์กับข้อมูลเหล่านั้นได้
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2010
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
T.INV.2T(probability, deg_freedom)
Arguments
-
probability (Required – number)
ค่าความน่าจะเป็นที่คุณต้องการเปรียบเทียบกับการแจกแจง t-distribution -
deg_freedom (Required – number)
จำนวนดีกรีของความเป็นอิสระที่ใช้ในการแจกแจง
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ค่าของ t-score สำหรับความน่าจะเป็น 0.546449 และ degree of freedom 60=T.INV.2T(0.546449, 60)
Result:0.606533 (ผลลัพธ์เป็นเลขจริง) -
Formula:
Description: คำนวณค่า t-score สำหรับค่า confidence level 95% และ degree of freedom 10=T.INV.2T(0.05, 10)
Result:2.28139 (ค่าดังกล่าวแสดงถึงค่าที่ต่ำกว่า 5% ของการแจกแจง t) -
Formula:
Description: ค่าของ t-score สำหรับความน่าจะเป็น 0.01 และ degree of freedom 5=T.INV.2T(0.01, 5)
Result:4.03214 (แสดงผลอย่างเป็นเหตุเป็นผลจากการกระจายระดับต่ำ) -
Formula:
Description: การค้นหาค่า one-tailed t-score โดยใช้ T.INV.2T แทนที่ T.INV เป็นการประยุกต์ใช้ฟังก์ชันเพื่อหาค่า t เมื่อ probability เป็น 0.10 และ degree of freedom 15=T.INV.2T(0.10*2, 15)
Result:1.341798 (หมายถึงค่า t-score สำหรับ one-tailed test) -
Formula:
Description: ใช้ T.DIST.2T เพื่อสร้าง probability และให้ T.INV.2T คำนวณหา t-score จริง=T.INV.2T(T.DIST.2T(2, 10, TRUE), 10)
Result:ประมาณค่า t ที่ใกล้เคียงที่ใช้ในความน่าจะเป็นที่คำนวณกำหนด (มักจะใช้ในการพิสูจน์ความแม่นยำ)
Tips & Tricks
หากต้องการคำนวณ one-tailed t-score คุณสามารถนำความน่าจะเป็นที่ต้องการมาใช้คูณสอง แล้วใช้ในฟังก์ชัน T.INV.2T เพื่อประยุกต์หาค่าที่ต้องการได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
T.INV.2T ต้องการให้ทุกค่าที่ป้อนเป็นตัวเลข มิฉะนั้นจะเกิดข้อผิดพลาด #VALUE! ถ้าความน่าจะเป็นอยู่นอกช่วงที่ 0 < probability <= 1 จะพบข้อผิดพลาด #NUM! อีกทั้ง deg_freedom ที่ไม่ใช่จำนวนเต็มจะถูกปัดเศษโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้ผลการคำนวณคลาดเคลื่อนได้
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply