TLDR สรุปสั้นๆ

VAR.S ใช้คำนวณความแปรปรวนจากตัวอย่างของข้อมูล เหมาะสำหรับข้อมูลที่เป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ประชากรทั้งหมด

คำอธิบาย

ฟังก์ชั่น VAR.S ใน Excel ใช้ในการคำนวณความแปรปรวน (variance) ของข้อมูลจากตัวอย่าง เช่นชุดข้อมูลบางส่วนจากกลุ่มประชากรทั้งหมด โดยไม่ได้คำนึงถึงค่าตรรกะและข้อความในตัวอย่างเหล่านั้น

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2010

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

VAR.S(number1,[number2],...)

Arguments

  • number1 (Required – number)
    หมายเลขแรกที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างข้อมูล. เป็นค่าที่จำเป็นต้องระบุ
  • number2, … (Optional – number)
    หมายเลขอื่นๆ ที่สามารถระบุต่อๆได้จนถึง 254 ค่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างข้อมูล. เป็นค่าที่ไม่บังคับ

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =VAR.S(A2:A11)
    Description: คำนวณค่าความแปรปรวนของผลทดสอบความแข็งแรงเครื่องมือ โดยค่าที่อยู่ใน A2:A11 เป็นเพียงตัวอย่างของข้อมูลทั้งหมดผู้ใช้และกำลังคำนวณค่าความแปรปรวนเฉพาะตัวอย่างนี้
    Result:754.27 (ค่าความแปรปรวนที่ได้แสดงถึงความกระจายในชุดข้อมูลเป็นตัวเลขจริง)
  • Formula:
    =VAR.S(1345, 1301, 1368, 1322, 1310, 1370, 1318, 1350, 1303, 1299)
    Description: คำนวณค่าความแปรปรวนโดยระบุค่าตัวเลขตรงๆ ฟังก์ชั่นจะคำนวณความกระจายจากตัวเลขเหล่านี้
    Result:754.27 (คำนวณความแปรปรวนจากค่าตัวเลขที่ให้เป็นตัวเลขจริง)
  • Formula:
    =VAR.S(B3:B12, C3:C12, D3:D12)
    Description: คำนวณความแปรปรวนจากข้อมูลในหลายช่วง เช่น B3:B12, C3:C12, D3:D12
    Result:ผลลัพธ์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับค่าภายในช่วงที่เลือก (แสดงเป็นตัวเลขจริงหากข้อมูลในแต่ละช่วงเป็นตัวเลข)
  • Formula:
    =VAR.S(SalesData)
    Description: ใช้ฟังก์ชั่นกับ Named Range ที่กำหนดเองใน Excel เพื่อคำนวณความแปรปรวนง่ายๆ
    Result:แสดงเป็นตัวเลขจริงตามค่าของ SalesData ที่ระบุไว้ใน Named Range
  • Formula:
    =VAR.S(OFFSET(A1,1,0,10,1))
    Description: คำนวณค่าความแปรปรวนโดยใช้ฟังก์ชั่น OFFSET เพื่อสร้างช่วงแบบ dynamic หรือเปลี่ยนแปลงอัตโนมัติตามข้อมูลที่อัพเดท
    Result:แสดงเป็นตัวเลขจริงความแปรปรวนของช่วงที่ OFFSET ระบุขึ้นมา

Tips & Tricks

การใช้ VAR.S เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นตัวอย่างเมื่อคุณไม่สามารถใช้ข้อมูลของกลุ่มประชากรทั้งหมดได้. ควรใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นอื่น เช่น OFFSET หรือ INDEX เพื่อสร้างช่วง dynamic และยังช่วยในการจัดกลุ่มข้อมูลหรือจัดการข้อมูลให้ชัดเจนขึ้น การตั้งชื่อ Named Ranges สามารถช่วยให้การจัดการสูตรของคุณง่ายขึ้นมาก

ข้อควรระวัง (Cautions)

ฟังก์ชั่น VAR.S จะคืนค่าเป็น error หากมีตรรกะที่ไม่ใช่ตัวเลขอยู่ในช่วงที่อ้างอิง หลักที่ควรระวังคือควรตรวจสอบว่าช่วงข้อมูลที่เลือกไม่รวมเซลล์ว่าง ข้อความ หรือค่าตรรกะอื่นๆ หากต้องการรวมค่าดังกล่าวในคำนวณ ควรใช้ฟังก์ชัน VARA แทน ความเสี่ยงอีกอย่างคือ การเลือกใช้ฟังก์ชันผิดระหว่าง VAR.S และ VAR.P ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลของคุณเป็น ‘ตัวอย่าง’ หรือ ‘ประชากรทั้งหมด’

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Public Training Workshop 2025
อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot