TLDR สรุปสั้นๆ
YIELD ช่วยคำนวณอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยเป็นงวด
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน YIELD ใช้ในการคำนวณอัตราผลตอบแทนของตราสารที่มีการจ่ายดอกเบี้ยเป็นงวดเป็นงวดครับ เป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์โดยเฉพาะในการคำนวณ Bond Yield สำหรับผู้ที่สนใจในการลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตร
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
YIELD(settlement, maturity, rate, pr, redemption, frequency, [basis])
Arguments
-
settlement (Required – date)
วันที่ชำระหลักทรัพย์หลังจากวันที่ออกหลักทรัพย์ (วันที่ซื้อขายเสร็จสมบูรณ์) -
maturity (Required – date)
วันที่ครบกำหนดอายุของหลักทรัพย์ (วันที่ต้องชำระเงินต้นคืน) -
rate (Required – number)
อัตราดอกเบี้ยรายปีของหลักทรัพย์ -
pr (Required – number)
ราคาของหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหน้าตั๋ว $100 -
redemption (Required – number)
มูลค่าของการไถ่ถอนต่อมูลค่าหน้าตั๋ว $100 -
frequency (Required – number)
จำนวนครั้งของการจ่ายคูปองต่อปี (annual = 1, semiannual = 2, quarterly = 4) -
basis (Optional – number)
ประเภทวันนับ (เช่น 0 = US 30/360, 1 = Actual/actual, 2 = Actual/360, 3 = Actual/365, 4 = European 30/360)
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: คำนวณอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่จ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี=YIELD(DATE(2023,1,1), DATE(2033,1,1), 5%, 100, 100, 2)
Result:จะได้ผลลัพธ์เป็นเปอร์เซ็นต์เชิงอัตราผลตอบแทน เช่น 4.75% -
Formula:
Description: คำนวณอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร โดยกำหนดราคาขายเป็น 95 ดอลลาร์ต่อมูลค่าหน้าตั๋ว 100 ดอลลาร์=YIELD(DATE(2024,1,1), DATE(2034,1,1), 0.05, 95, 100, 2, 0)
Result:จะได้ผลลัพธ์เป็นประมาณ 0.0545 หรือ 5.45%
Tips & Tricks
ควรใช้อาร์กิวเมนต์ ‘basis’ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่มีความสำคัญต่อผลตอบแทน เช่น กรณีที่มีวันที่จ่ายคูปองคาบเกี่ยวปีต่างๆ มีหลายคาบการจ่ายที่ต้องสนใจ
ข้อควรระวัง (Cautions)
ฟังก์ชันนี้ต้องการข้อมูลวันที่ที่ถูกต้อง หากมีข้อผิดพลาดในวันที่ มันจะส่งกลับ #VALUE! error. ควรแน่ใจว่าข้อมูล input ถูกต้องและอยู่ในรูปแบบที่ Excel เข้าใจได้.
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply