IF เป็นฟังก์ชันตรรกะพื้นฐาน ตรวจสอบเงื่อนไขแล้วคืนค่าตามผล TRUE/ FALSE ใช้ได้กับตัวเลข ข้อความ หรือการเปรียบเทียบวันที่ เป็นพื้นฐานของการสร้างสูตรซ้อนและการตรวจสอบข้อมูล
IF เป็นฟังก์ชันตรรกะพื้นฐาน ตรวจสอบเงื่อนไขแล้วคืนค่าตามผล TRUE/ FALSE ใช้ได้กับตัวเลข ข้อความ หรือการเปรียบเทียบวันที่ เป็นพื้นฐานของการสร้างสูตรซ้อนและการตรวจสอบข้อมูล
ส่งกลับรูปภาพจากแหล่งข้อมูลที่ระบุ (URL)
INDEX คืนค่าจากเซลล์ในช่วงตามตำแหน่งที่กำหนด ใช้จับคู่กับ MATCH เพื่อค้นหาข้อมูลแบบยืดหยุ่น
INDIRECT แปลงข้อความให้เป็นการอ้างอิงเซลล์ที่ใช้งานได้จริง (Live Reference) ช่วยให้สร้างสูตรที่ดึงข้อมูลจาก Sheet หรือ Range Name ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้ เหมาะกับการทำ Dropdown แบบ Dependent หรือรวมข้อมูลจากหลาย Sheet
INT จะตัดทศนิยมทิ้งเพื่อให้ได้จำนวนเต็มที่น้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนเดิมเสมอ (ปัดลงหาค่าที่น้อยกว่า) สำหรับเลขบวกจะเหมือนตัดทศนิยมทิ้ง แต่สำหรับเลขลบจะปัดลงให้ค่าลบมากขึ้น
LEFT เป็นฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับจัดการข้อความ (Text Manipulation) โดยจะดึงตัวอักษรจากด้านซ้ายสุดของข้อความตามจำนวนที่ระบุ หากไม่ระบุจำนวน จะดึงมาเพียง 1 ตัวอักษร
LEN คืนค่าจำนวนตัวอักษรทั้งหมดในข้อความ (รวมสระ วรรณยุกต์ และช่องว่าง) มักใช้ตรวจสอบความยาวของข้อมูล หรือใช้เป็นตัวช่วยในสูตรตัดคำเช่น RIGHT หรือ MID
ค้นหาค่าในเวกเตอร์หรืออาร์เรย์ (แนะนำให้ใช้ XLOOKUP แทน)
MATCH คืนหมายเลขลำดับของค่าที่ค้นหาในช่วงที่เป็นแถวเดียวหรือคอลัมน์เดียว เลือกได้ทั้งการจับคู่ตรงทั้งหมด การจับคู่ประมาณค่า หรือ wildcard ใช้ควบคู่กับ INDEX เพื่อสร้างสูตรค้นหาที่ยืดหยุ่นกว่า VLOOKUP
MID ใช้ดึงข้อความย่อยจากตำแหน่งกลางของข้อความหลัก ต้องระบุ 3 อย่าง: ข้อความต้นฉบับ, ตำแหน่งเริ่มต้น, และจำนวนตัวอักษรที่ต้องการ เหมาะสำหรับดึงรหัสที่อยู่ตรงกลางข้อความ
MONTH จะคืนค่าเดือนเป็นตัวเลข 1-12 จากค่าวันที่ที่ระบุ (Serial Number) โดย 1 คือมกราคม และ 12 คือธันวาคม
NETWORKDAYS คืนค่าจำนวนวันทำงานทั้งหมด (Workdays) ระหว่างวันที่สองวัน โดยนับรวมวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดด้วย หากเป็นวันทำงาน สามารถหักวันหยุดสุดสัปดาห์ (Saturday/Sunday) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ออกได้ เหมาะสำหรับคำนวณระยะเวลาโปรเจกต์ หรือจำนวนวันทำงานจริง
NOW คืนค่าวันที่และเวลาปัจจุบัน (Current Date & Time) ตามนาฬิกาของเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นฟังก์ชัน Volatile ที่จะเปลี่ยนค่าไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ Sheet มีการคำนวณใหม่
OFFSET เป็นฟังก์ชันที่คืนค่าเป็น Reference ทำให้ยืดหยุ่นมาก สามารถสร้าง Dynamic Range ที่ปรับขนาดได้เอง มักใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่น เช่น SUM, AVERAGE เพื่อคำนวณในช่วงข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
RIGHT เป็นฟังก์ชันคู่หูของ LEFT โดยจะดึงตัวอักษรจากด้านขวาสุดของข้อความย้อนกลับมาทางซ้ายตามจำนวนที่ระบุ
ROUND ใช้ปัดตัวเลขให้เหลือทศนิยมตามจำนวนหลักที่ระบุ (Standard Rounding) สามารถปัดให้เป็นจำนวนเต็ม หรือปัดหลักสิบ หลักร้อยได้ (โดยใช้ค่าติดลบ)
ส่งกลับหมายเลขแถวของการอ้างอิง
ส่งกลับจำนวนแถวในอาร์เรย์หรือการอ้างอิง
SORT เรียงลำดับข้อมูลตามคอลัมน์หรือแถวที่กำหนด แล้วคืนผลลัพธ์ในช่วงใหม่ สามารถเรียงจากน้อย→มาก มาก→น้อย หรือเรียงตามคอลัมน์ได้ เหมาะกับการจัดอันดับและเตรียมข้อมูลก่อนส่งต่อให้ฟังก์ชันอื่น
เรียงลำดับช่วงข้อมูลหรืออาร์เรย์ตามค่าในช่วงหรืออาร์เรย์ที่สอดคล้องกัน
ดึงจำนวนแถวหรือคอลัมน์ที่ระบุจากจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของอาร์เรย์
TEXT ใช้รหัสรูปแบบ (format codes) เพื่อแปลงตัวเลข วันที่ หรือเวลาเป็นข้อความที่มีรูปแบบ เช่น dd/mm/yyyy หรือ #,##0.00 ทำให้รวมเข้ากับข้อความอื่นได้สะดวก
TEXTJOIN เชื่อมข้อความจากอาร์เรย์หรือรายการด้วยตัวคั่นเดียว เลือกได้ว่าจะข้ามเซลล์ว่างหรือไม่ เหมาะกับการรวมชื่อ-สกุล รายการคำสำคัญ หรือสร้างข้อความสรุปจากหลายคอลัมน์
TEXTSPLIT เป็นฟังก์ชัน Dynamic Array ที่ช่วยแยกข้อความในเซลล์ออกเป็นอาร์เรย์ของค่า (Spill) ตามตัวคั่นที่ระบุ สามารถแยกข้อมูลออกไปทางขวา (คอลัมน์) หรือลงด้านล่าง (แถว) หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน เหมาะสำหรับการจัดการข้อมูลนำเข้าที่รวมกันอยู่ในเซลล์เดียว