ตัวอย่างที่ 1: แสดงยอดขายหรือข้อความสรุป
Sales Info =
IF(
HASONEVALUE('Product'[Category]),
[Total Sales],
"Select a Category"
)
ถ้าเลือก Category เดียว -> ยอดขาย, ถ้าเลือกหลาย Category -> "Select a Category"
ตรวจสอบว่าคอลัมน์ถูกกรองเหลือค่าเดียวหรือไม่
HASONEVALUE คืนค่า TRUE หากคอลัมน์ที่ระบุใน Filter Context ปัจจุบันมีเพียงค่าที่ไม่ซ้ำกันเพียงค่าเดียว หากมีหลายค่า, ไม่มีค่า, หรือมีค่า BLANK จะคืนค่า FALSE
=HASONEVALUE(ColumnName)
=HASONEVALUE(ColumnName)
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| ColumnName | column | Yes | คอลัมน์ที่ต้องการตรวจสอบ |
แสดงคำว่า "Total" เมื่ออยู่บนแถว Grand Total (เพราะไม่มีค่าเดียว)
กำหนดให้ Measure ทำงานแบบหนึ่งเมื่อเลือกค่าเดียว และอีกแบบเมื่อเลือกหลายค่า
Sales Info =
IF(
HASONEVALUE('Product'[Category]),
[Total Sales],
"Select a Category"
)
ถ้าเลือก Category เดียว -> ยอดขาย, ถ้าเลือกหลาย Category -> "Select a Category"
HASONEVALUE ตรวจสอบว่ามี ‘ค่าเดียว’ ในคอลัมน์นั้นๆ ส่วน HASONEFILTER ตรวจสอบว่า ‘มี Filter เดียว’ ถูกใช้กับคอลัมน์นั้นๆ (อาจมีหลายค่าจาก Filter นั้นได้)
HASONEVALUE เป็นฟังก์ชันเชิงตรรกะ (Logical Function) ที่ใช้ตรวจสอบว่าคอลัมน์ที่ระบุใน Filter Context ปัจจุบันนั้น ถูกกรองเหลือเพียงค่าที่ไม่ซ้ำกันเพียงค่าเดียวหรือไม่
ฟังก์ชันนี้จะคืนค่า TRUE หากมีค่าเดียว และคืนค่า FALSE หากมีการเลือกหลายค่า หรือไม่มีการเลือกเลย (หรือมีค่า BLANK)