=AND(<logical1>, <logical2>)
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| logical1 | Boolean | Yes | ค่าหรือนิพจน์ตรรกะตัวแรกที่ต้องการตรวจสอบ | |
| logical2 | Boolean | Yes | ค่าหรือนิพจน์ตรรกะตัวที่สองที่ต้องการตรวจสอบ |
ตรวจสอบว่าเงื่อนไขหลายตัวเป็นจริงพร้อมกันหรือไม่ เช่น ยอดขายเกินเป้าและมีกำไรที่ดี
สร้างเงื่อนไขที่ซับซ้อนในการกรองข้อมูล โดยต้องผ่านทุกเงื่อนไขที่กำหนด
ใช้ร่วมกับ IF เพื่อควบคุมการแสดงผลตามหลายเงื่อนไข เช่น แสดงผลเฉพาะรายการที่ตรงเงื่อนไขทั้งหมด
AND(TRUE, TRUE)=AND(TRUE, TRUE)
TRUE
TRUE && FALSE && TRUE=TRUE && FALSE && TRUE
FALSE
IF([Total Sales] > 1000000 && [Total Quantity] > 100, "เป้าหมายบรรลุ", "ต้องปรับปรุง")=IF([Total Sales] > 1000000 && [Total Quantity] > 100, "เป้าหมายบรรลุ", "ต้องปรับปรุง")
เป้าหมายบรรลุ (ถ้าทั้งสองเงื่อนไขเป็นจริง)
เพราะ AND() รับได้แค่ 2 อาร์กิวเมนต์ แต่ && เชื่อมได้หลายเงื่อนไข โค้ดสั้นกว่า และอ่านเจตนาได้ชัดกว่าในงานจริง
ควรใส่วงเล็บเพื่อความชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อมีทั้ง && และ || อยู่ในนิพจน์เดียวกัน เพื่อป้องกันการตีความลำดับความสำคัญผิด
ฟังก์ชัน AND ใช้ตรวจสอบว่าเงื่อนไขตรรกะทั้งหมดเป็นจริงหรือไม่ โดยจะคืนค่า TRUE ก็ต่อเมื่อทุกอาร์กิวเมนต์มีค่าเป็น TRUE เท่านั้น
ฟังก์ชันนี้สามารถรับอาร์กิวเมนต์ได้เพียง 2 ตัว หากต้องการตรวจสอบเงื่อนไขมากกว่านี้ ควรใช้ตัวดำเนินการ && แทน เนื่องจากให้ประสิทธิภาพดีกว่าและอ่านง่ายกว่า
ฟังก์ชัน AND มักใช้ร่วมกับ OR และ NOT ในการสร้างเงื่อนไขที่ซับซ้อน และสามารถใช้ร่วมกับ IF หรือ SWITCH เพื่อควบคุมการทำงานของสูตร