YEARFRAC คืนค่าสัดส่วนของปีระหว่าง StartDate และ EndDate โดยเลือกวิธีนับวัน (Basis) ได้ เหมาะกับการวัดช่วงเวลาที่ต้องการผลลัพธ์เป็นจำนวนปีแบบทศนิยม
=YEARFRAC(<StartDate>, <EndDate>[, <Basis>])
=YEARFRAC(<StartDate>, <EndDate>[, <Basis>])
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| StartDate | date/datetime | Yes | วันที่เริ่มต้น | |
| EndDate | date/datetime | Yes | วันที่สิ้นสุด | |
| Basis | number | Optional | 0 | รหัสวิธีนับวัน (day count basis) ตามกติกาที่ต้องการ |
เช่น ระยะเวลาตั้งแต่วันเริ่มงานถึงวันนี้
เช่น สัญญาเริ่ม-สิ้นสุด ต้องการผลเป็นจำนวนปี
Tenure (Years) = YEARFRAC(Employees[HireDate], TODAY())=Tenure (Years) =
YEARFRAC(Employees[HireDate], TODAY())
คืนค่าเป็นจำนวนปีแบบทศนิยม เช่น 3.75
Contract Length (Years) = YEARFRAC(Contracts[StartDate], Contracts[EndDate])=Contract Length (Years) =
YEARFRAC(Contracts[StartDate], Contracts[EndDate])
คืนค่าความยาวสัญญาเป็นปีแบบทศนิยม
Year Fraction (Basis 1) = YEARFRAC(Loans[StartDate], Loans[EndDate], 1)=Year Fraction (Basis 1) =
YEARFRAC(Loans[StartDate], Loans[EndDate], 1)
ได้ผลลัพธ์ตามกติกา basis ที่เลือก
YEARFRAC รองรับการเลือกกติกานับวัน (basis) ทำให้เหมาะกับกรณีที่ต้องการกติกาเฉพาะ ไม่ใช่แค่หาร 365 แบบง่าย ๆ
ผลลัพธ์มักสะท้อนช่วงเวลาติดลบหรือขึ้นกับการตีความของสูตร ควรตรวจสอบลำดับวันที่ให้ถูกต้องก่อนคำนวณ
YEARFRAC คืนค่าสัดส่วนของปีระหว่างวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด เหมาะกับการคำนวณอายุงาน ระยะเวลาสัญญา หรือการคิดดอกเบี้ย/อัตราต่อปี โดยสามารถกำหนดวิธีนับวัน (basis) ได้เพื่อให้สอดคล้องกับกติกาทางการเงินที่ใช้งาน