คืนค่าที่ต่ำที่สุดจากชุดข้อมูลตัวเลข
MIN คืนค่าต่ำสุดจากชุดข้อมูลที่มี Data Type เป็นตัวเลข (Number) เพิกเฉยเซลล์ว่าง ข้อความ และค่า Logic (TRUE/FALSE) โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการหาค่าต่ำสุดเช่น คะแนนต่ำสุด ราคาต่ำสุด อุณหภูมิต่ำสุด วันที่เก่าที่สุด หรือระยะเวลาสั้นที่สุด สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่นเพื่อสร้างเงื่อนไขหรือจำกัดค่าต่ำสุด
=MIN(number1, [number2], ...)
=MIN(number1, [number2], ...)
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| number1 | number/range | Yes | ตัวเลข เซลล์ หรือช่วงแรกที่ต้องการหาค่าต่ำสุด | |
| number2 | number/range | Optional | 1 | ตัวเลข เซลล์ หรือช่วงเพิ่มเติมที่ต้องการหาค่าต่ำสุด (สูงสุด 255 พารามิเตอร์) |
ใช้ MIN เพื่อหาราคาสินค้าที่ถูกที่สุดจากหลายร้านหรือหลายซัพพลายเออร์
หาคะแนนสอบต่ำสุดของนักเรียนแต่ละคน เพื่อระบุวิชาที่ต้องปรับปรุง
หาวันที่เก่าที่สุดจากชุดข้อมูล เช่น วันที่เริ่มโครงการ วันที่สั่งซื้อแรก
ใช้ MIN เพื่อจำกัดค่าไม่ให้เกินค่าสูงสุดที่กำหนด เช่น =MIN(A1, 100) จำกัดไม่เกิน 100
ใช้ได้กับ Excel ทุกเวอร์ชัน ทั้ง Windows, Mac และ Web ไม่ต้องการเวอร์ชันพิเศษ
MIN มีประสิทธิภาพสูงแม้กับข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถหาค่าต่ำสุดจากข้อมูลหลักหมื่นหรือหลักแสนแถวได้รวดเร็ว
=MIN(10, 5, 20)
5
=MIN(Sales[Cost])
ต้นทุนต่ำสุด
=MIN(Dates)
วันที่เริ่มแรก
MIN เพิกเฉยค่า Logic (TRUE/FALSE) และข้อความ ส่วน MINA จะนับ TRUE = 1 และ FALSE = 0 และข้อความ = 0 ควรใช้ MIN สำหรับข้อมูลตัวเลขทั่วไป และใช้ MINA เมื่อต้องการนับค่า Logic และข้อความด้วย
ใช้ MINIFS (Excel 2016 ขึ้นไป) เช่น =MINIFS(D2:D10, A2:A10, “กรุงเทพ”, C2:C10, “>0″) เพื่อหาค่าต่ำสุดจากเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไข หรือใช้สูตรแบบ Array เช่น =MIN(IF(A2:A10=”กรุงเทพ”, B2:B10)) + Ctrl+Shift+Enter
MIN จะคืนค่า 0 ถ้าช่วงข้อมูลมีแต่เซลล์ว่าง ข้อความ หรือค่า Logic ตัวอย่าง: =MIN(“ก”,”ข”,”ค”) จะได้ 0 เพราะไม่มีตัวเลขในพารามิเตอร์
ใช้ SMALL function เช่น =SMALL(A1:A10, 2) เพื่อหาค่าต่ำสุดอันดับที่ 2 สูตร SMALL(range, k) จะคืนค่าต่ำสุดอันดับที่ k เช่น k=1 คือค่าต่ำสุด, k=2 คือค่าต่ำสุดที่ 2
ใช่ MIN พิจารณาค่า 0 เป็นตัวเลข ตัวอย่าง: =MIN(0, 5, 10) จะได้ 0 เพราะ 0 น้อยกว่า 5 และ 10 หากต้องการเพิกเฉยค่า 0 ให้ใช้ =MINIFS(A1:A10, A1:A10, “>0”)
ใช้ MATCH ร่วมกับ MIN เช่น =MATCH(MIN(A1:A10), A1:A10, 0) เพื่อหาตำแหน่งแถว (row number) ของค่าต่ำสุด หรือใช้ INDEX-MATCH เพื่อดึงข้อมูลจากคอลัมน์อื่น
MIN เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีใน Excel ทุกเวอร์ชัน รวมถึง Excel for Microsoft 365, Excel 2024, 2021, 2019, 2016, 2013, 2010, 2007 และเวอร์ชันเก่ากว่า ใช้ได้ทั้ง Windows, Mac และ Excel for the web
ฟังก์ชัน MIN ใช้หาค่าต่ำสุด (minimum value) จากชุดข้อมูลตัวเลข รองรับการรับค่าจากเซลล์เดี่ยว ช่วงเซลล์ หรือค่าตัวเลขโดยตรง สูงสุด 255 พารามิเตอร์