ตัวอย่างที่ 1: ตัดทศนิยมเลขบวก
=INT(8.9)
8
แปลงเป็นจำนวนเต็มโดยการตัดทศนิยมทิ้ง
INT จะตัดทศนิยมทิ้งเพื่อให้ได้จำนวนเต็มที่น้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนเดิมเสมอ (ปัดลงหาค่าที่น้อยกว่า) สำหรับเลขบวกจะเหมือนตัดทศนิยมทิ้ง แต่สำหรับเลขลบจะปัดลงให้ค่าลบมากขึ้น
=INT(number)
=INT(number)
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| number | Number | Yes | ตัวเลขที่ต้องการทำเป็นจำนวนเต็ม |
ใน Excel วันที่คือจำนวนเต็ม เวลาคือทศนิยม ใช้ INT ดึงเฉพาะวันที่จาก Cell ที่มีทั้งวันที่และเวลา
หาผลต่างวันแล้วหารด้วย 365.25 จากนั้นใช้ INT ตัดเศษเพื่อให้ได้ปีเต็ม
มีสินค้า 100 ชิ้น ใส่กล่องละ 12 ชิ้น ใช้ INT หารเพื่อดูว่าจะได้กี่กล่องเต็ม
=INT(8.9)
8
=INT(-8.9)
-9
=INT(NOW())
30/11/2025 (ไม่มีเวลา)
ต่างกันที่เลขลบ INT(-8.9) ได้ -9 (ปัดลง) แต่ TRUNC(-8.9) ได้ -8 (ตัดทศนิยมทิ้งเฉยๆ)
INT ตัดทิ้งเลย (ปัดลง) ส่วน ROUND จะดูค่าทศนิยมว่าควรปัดขึ้นหรือปัดลงตามหลักคณิตศาสตร์
ฟังก์ชัน INT (Integer) ใช้สำหรับเปลี่ยนตัวเลขที่มีทศนิยมให้กลายเป็นจำนวนเต็ม โดยการตัดเศษทศนิยมทิ้งทั้งหมด (ปัดลงเสมอ) มักใช้ในการคำนวณจำนวนวัน จำนวนชิ้น หรือแยกส่วนที่เป็นจำนวนเต็มออกจากทศนิยม