ฟังก์ชัน PRODUCT ใน Excel ใช้สำหรับคูณตัวเลขทั้งหมดที่อยู่ในช่วงเซลล์ที่กำหนด หรือเป็นรายการของอาร์กิวเมนต์ที่ระบุ ทำให้สามารถหาผลคูณของชุดข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว.
ฟังก์ชัน PRODUCT ใน Excel ใช้สำหรับคูณตัวเลขทั้งหมดที่อยู่ในช่วงเซลล์ที่กำหนด หรือเป็นรายการของอาร์กิวเมนต์ที่ระบุ ทำให้สามารถหาผลคูณของชุดข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว.
ส่งกลับผลลัพธ์การหารแบบจำนวนเต็ม (ตัดเศษทิ้ง)
แปลงมุมจากองศาเป็นเรเดียน
RAND คืนค่าตัวเลขสุ่มที่เป็นทศนิยมที่มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0 แต่น้อยกว่า 1 (0 <= x < 1) ค่าที่ได้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ Sheet มีการคำนวณ
สร้างอาร์เรย์ของตัวเลขสุ่ม ระหว่าง 0 ถึง 1 หรือช่วงที่กำหนด
RANDBETWEEN คืนค่าจำนวนเต็มสุ่ม (Random Integer) ที่อยู่ระหว่างค่าต่ำสุดและสูงสุดที่ระบุ โดยจะรวมค่าต่ำสุดและสูงสุดนั้นด้วย ค่าที่ได้จะเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่มีการคำนวณ
แปลงตัวเลขเป็นเลขโรมัน
ROUND ใช้ปัดตัวเลขให้เหลือทศนิยมตามจำนวนหลักที่ระบุ (Standard Rounding) สามารถปัดให้เป็นจำนวนเต็ม หรือปัดหลักสิบ หลักร้อยได้ (โดยใช้ค่าติดลบ)
ปัดเศษตัวเลขลงไปยังจำนวนทศนิยมที่ระบุ
ปัดเศษตัวเลขขึ้นไปยังจำนวนทศนิยมที่ระบุ
หาค่า Secant ของมุม
ฟังก์ชัน SECH ใน Excel ใช้สำหรับคำนวณค่า Hyperbolic Secant ของมุม โดยค่า Hyperbolic Secant (sech) คือส่วนกลับของ Hyperbolic Cosine ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ระดับสูงและวิศวกรรม.
สร้างรายการตัวเลขลำดับในอาร์เรย์ เช่น 1, 2, 3, 4
คำนวณผลรวมของอนุกรมกำลัง (Power Series)
ตรวจสอบเครื่องหมายของตัวเลข (1=บวก, 0=ศูนย์, -1=ลบ)
ฟังก์ชัน SIN ใน Excel ใช้สำหรับคำนวณค่า Sine ของมุมที่ระบุ โดยมุมจะต้องอยู่ในหน่วยเรเดียน เป็นฟังก์ชันตรีโกณมิติพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์.
ฟังก์ชัน SINH ใน Excel ใช้สำหรับคำนวณค่า Hyperbolic Sine ของมุม โดยค่า Hyperbolic Sine (sinh) คือฟังก์ชันที่คล้ายกับฟังก์ชัน Sine แต่ถูกกำหนดโดยใช้ไฮเพอร์โบลาแทนวงกลม เหมาะสำหรับใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ระดับสูงและวิศวกรรม.
ฟังก์ชัน SQRT ใน Excel ใช้สำหรับคำนวณค่ารากที่สองที่เป็นบวกของจำนวนที่กำหนด โดยจำนวนนั้นต้องไม่เป็นค่าลบ เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม
ส่งกลับค่ารากที่สองของ (ค่าที่ระบุ * Pi)
คำนวณผลรวมย่อยหรือค่าทางสถิติอื่นๆ (ละเว้นแถวที่ซ่อนได้)
SUM รวมเฉพาะข้อมูลที่มี Data Type เป็นตัวเลข (Number) เท่านั้น เพิกเฉยข้อความ ค่า Logic (TRUE/FALSE) และข้อความที่หน้าตาเหมือนตัวเลข (เช่น "123" ที่เป็น Text) โดยอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ใช้บ่อยที่สุดในการคำนวณผลรวม รองรับสูงสุด 255 พารามิเตอร์ ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง อัปเดตอัตโนมัติเมื่อข้อมูลเปลี่ยน
SUMIF ใช้หาผลรวมของเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไขที่ระบุ รองรับเงื่อนไขทั้งแบบตัวเลข ข้อความ และวันที่ รวมถึงการใช้ Wildcard (*, ?) เหมาะสำหรับการสรุปข้อมูลเบื้องต้นที่ไม่ซับซ้อน
SUMIFS บวกค่าที่ตรงกับเงื่อนไขหนึ่งหรือหลายเงื่อนไข สามารถผสมเงื่อนไขตัวเลข ข้อความ วันที่ และเปรียบเทียบช่วงเวลา เหมาะกับรายงานยอดขายหลายมิติและการคัดกรองข้อมูล
SUMPRODUCT จะนำอาร์เรย์ (Array) มาคูณกันทีละคู่ในตำแหน่งเดียวกัน แล้วหาผลรวมของผลคูณเหล่านั้น มักใช้อย่างแพร่หลายในการหา Weighted Average หรือใช้เป็นสูตร Array เพื่อหาผลรวม/นับจำนวนแบบมีเงื่อนไขที่ซับซ้อน (เช่น เงื่อนไข OR หรือการคำนวณข้ามคอลัมน์) ซึ่ง SUMIFS ทำไม่ได้