รวมยอดขายสินค้า "Apple"
=SUMIF(Products, "Apple", Amounts)
ยอดขาย Apple
หาผลรวมของข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไขเดียว
SUMIF ใช้หาผลรวมของเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไขที่ระบุ รองรับเงื่อนไขทั้งแบบตัวเลข ข้อความ และวันที่ รวมถึงการใช้ Wildcard (*, ?) เหมาะสำหรับการสรุปข้อมูลเบื้องต้นที่ไม่ซับซ้อน
=SUMIF(range, criteria, [sum_range])
=SUMIF(range, criteria, [sum_range])
| Argument | Type | Required | Default | Description |
|---|---|---|---|---|
| range | Range | Yes | ช่วงข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไข | |
| criteria | Text/Number | Yes | เงื่อนไขที่กำหนด (เช่น “>100”, “Apple”, “*East*”) | |
| sum_range | Range | Optional | range | ช่วงข้อมูลที่ต้องการนำมาบวก (ถ้าไม่ระบุ จะใช้ช่วง range มาบวกแทน) |
รวมยอดขายทั้งหมดของสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งจากรายการขายทั้งหมด
หาผลรวมของรายการค่าใช้จ่ายที่มีมูลค่าสูงกว่า 5,000 บาท
รวมยอดขายของพนักงานขายแต่ละคนเพื่อคำนวณค่าคอมมิชชั่น
=SUMIF(Products, "Apple", Amounts)
ยอดขาย Apple
=SUMIF(Amounts, ">1000")
ผลรวม
=SUMIF(Items, "*Shirt*", Sales)
ยอดขายเสื้อ
SUMIF ใช้ได้แค่ 1 เงื่อนไข แต่ SUMIFS ใช้ได้หลายเงื่อนไขพร้อมกัน แนะนำให้ใช้ SUMIFS เป็นหลักเพื่อความยืดหยุ่นในอนาคต
ไม่จำเป็น ถ้าเงื่อนไขและตัวเลขที่จะบวกอยู่ในคอลัมน์เดียวกัน (เช่น หาผลรวมของตัวเลขที่มากกว่า 50) แต่ถ้าเงื่อนไขอยู่คนละคอลัมน์กับตัวเลข ต้องใส่เสมอ
ฟังก์ชัน SUMIF ช่วยให้คุณหาผลรวมของตัวเลขในช่วงข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเพียงเงื่อนไขเดียว เช่น รวมยอดขายเฉพาะสินค้า A หรือรวมคะแนนของนักเรียนที่สอบผ่าน