SUM มีข้อดีหลายประการกว่าการใช้ + : 1) ป้องกัน #REF! error เมื่อมีการเพิ่ม/ลบแถวหรือคอลัมน์ 2) อัปเดตอัตโนมัติเมื่อข้อมูลเปลี่ยน 3) เพิกเฉยข้อความโดยอัตโนมัติ (การบวกด้วย + จะ error ถ้าเจอข้อความ) 4) สูตรสั้นกระชับเมื่อมีข้อมูลเยอะ และ 5) ง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไข

SUM รองรับสูงสุด 255 พารามิเตอร์ (number1 ถึง number255) แต่ละพารามิเตอร์สามารถเป็นเซลล์เดี่ยว ช่วงเซลล์ หรือค่าตัวเลขโดยตรง ช่วงเซลล์หนึ่งช่วงนับเป็น 1 พารามิเตอร์ แม้จะมีหลายหมื่นเซลล์ก็ตาม

SUM รวมเฉพาะข้อมูลที่มี Data Type เป็น Number เท่านั้น และเพิกเฉย: 1) Text ทุกประเภท (รวมถึง “123” ที่เป็น Text แม้หน้าตาเหมือนตัวเลข) 2) Logical values (TRUE/FALSE) 3) เซลล์ว่าง 4) Error values (#N/A, #VALUE! ฯลฯ) ตัวอย่าง: =SUM(A1:A5) ถ้า A1=10, A2=”100″, A3=TRUE, A4=20, A5=30 ผลลัพธ์จะเป็น 60 (รวมเฉพาะ 10+20+30 ที่เป็น Number)

เพราะ Data Type ของเซลล์นั้นเป็น Text ไม่ใช่ Number SUM ดู Data Type ไม่ใช่หน้าตา วิธีตรวจสอบ: 1) เซลล์ที่เป็น Text จะชิดซ้าย ส่วน Number ชิดขวา 2) ใช้ฟังก์ชัน =TYPE(A1) ถ้าได้ 1 = Number, ถ้าได้ 2 = Text วิธีแก้: แปลง Text เป็น Number โดยใช้ =VALUE(A1) หรือคูณด้วย 1 เช่น =A1*1

กด Alt+= (Windows) หรือ Command+Shift+T (Mac) หรือคลิกปุ่ม Σ (AutoSum) ใน Ribbon แท็บ Home Excel จะสร้างสูตร SUM โดยอัตโนมัติโดยเดาช่วงข้อมูลที่น่าจะต้องการรวม ตรวจสอบช่วงที่ Excel เลือกให้และกด Enter ถ้าถูกต้อง หรือปรับช่วงก่อนกด Enter

ใช้ SUBTOTAL แทน SUM เพราะ SUM จะรวมทุกเซลล์รวมทั้งแถวที่ซ่อนหรือ filter ออก ตัวอย่าง: =SUBTOTAL(9,B2:B10) หรือ =SUBTOTAL(109,B2:B10) จะรวมเฉพาะแถวที่มองเห็น function_num 9 หรือ 109 คือ SUM (109 จะเพิกเฉยแถวที่ซ่อนด้วยตนเอง ส่วน 9 จะนับเฉพาะแถวที่ซ่อนโดย filter)

SUM เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีใน Excel ทุกเวอร์ชัน รวมถึง Excel for Microsoft 365, Excel 2024, 2021, 2019, 2016, 2013, 2010, 2007 และเวอร์ชันเก่ากว่า ใช้ได้ทั้ง Windows, Mac และ Excel for the web